เที่ยวแบบชิวๆ บรรยากาศแบบสบายๆ สไตล์ชีวิตสโลว์ไลฟ์

ภาคกลางเป็นอีกภาคหนึ่งที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เหมาะกับการไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ หลบลมร้อนท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวแสนสวยงาม แถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนักใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงจุดหมายปลายทาง เรามาดูกันดีกว่าคะว่ามีที่ไหนบ้างที่จะไปไล่เช็คอินกัน
1. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง สุพรรณบุรี- หรือที่เรียกันว่าปางอุ๋งสุพรรณเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติแห่งใหม่ ที่เกิดจากการร่วมมือของชุมชน ช่วยกันพัฒนาให้พื้นที่ป่าอันอุดมสมบูรณ์กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขนาดนี้ซึ่งนอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเรียนรู้
2. บางกระเจ้า บางน้ำผึ้ง สมุทรปราการ- นักท่องเที่ยวท่านใดที่เป็นสายฮิปสเตอร์ต้องไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เพราะที่นี้เต็มไปด้วยของกินที่เรียงหน้ากันเข้ามาอย่างไม่เกรงใจกระเพาะเสียเลย มีทั้งก๋วยจั๊บ, กระเพาะปลา, ก๋วยเตี๋ยว,ขนมครกหอยทอด,ห่อหมก และลูกชิ้นโบราณ และที่พลาดไม่ได้คืออาหารพื้นเมืองฝีมือชาวบ้าน อย่างเช่น ขนมกล้วย,ขนมจาก,ขนมถ้วย,ขนมตระกูลทอง เป็นต้น เรียกได้ว่ามาตลาดน้ำบางน้ำผึ้งได้ทั้งอาหารตาและอาหารท้องในคราวเดียวกัน
3. น้ำตกวังตะไคร้ นครนายก- เป็นหนึ่งในสถานที่เหมาะแก่การคลายร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากบรรยากาศล้อมรอบไปด้วยภูเขาจึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นสบายตลอดทั้งปี พื้นที่ส่วนใหญ่อุดมไปด้วยป่าไม้สีเขียว ต้นไม้หลากหลายชนิดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติทำให้พื้นที่โดยล้อมร่มรื่นเป็นอย่างมาก
4. ศาลพันท้ายนรสิงห์ สมุทรสาคร- ตามประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์เป็นนายท้ายเรือในสมัยพระเจ้าเสือ ซึ่งเมื่อครั้งพระเจ้าเสือได้เสด็จประพาสด้วยเรืองพระที่นั่งเอกชัย มาจนถึงบริเวณคลองโคกขามด้วยเส้นทางน้ำมีความคดเคี้ยวและน้ำเชี่ยวมากไม่สามารถที่จะบังคับทิศทางเรือได้ ทำให้หัวเรือชนเข้ากับต้นไม้จนหัวเรือหัก พันท้ายนรสิงห์จึงขอให้พระเจ้าเสือประหารชีวิตตนเสียตามกฎมณเฑียรบาล พระเจ้าเสือจึงให้สร้างศาลพันท้ายนรสิงห์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความซื่อสัตย์ ยึดมั่นในกฎระเบียบ และกฎมณเฑียรบาลยิ่งกว่าชีวิตของตน
5. วัดม่วง อ่างทอง- ใครที่เคยไปท่องเที่ยววัดนี้คงจะทราบดีอยู่แล้วว่า เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เนื้อเงินแท้ องค์แรกองค์เดียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อนที่จะเข้าไปถึงในวัดสามารถมองเห็นองค์พระจากริมถนน ช่างเป็นภาพที่งดงามจนหาคำใดมาเปรียบเทียบได้ นอกจากนั้นภายในพระอุโบสถก็มีการล้อมรอบด้วยกลีบดอกบัวสีชมพู ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความสวยงามโดดเด่น วิหารแก้ว ชั้นล่างยังทำเป็นพิพิธภัณฑ์วัตถุมงคลและวัตถุโบราณที่เป็นบุญตาหากมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม