เกาะรง เกาะสุดแสนธรรมดาในประเทศกัมพูชา แต่เชื่อหรือไม่ว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่มาที่นี้ต่างประทับใจกับวิวสวยๆ หาดทรายสีขาว น้ำทะเลใสๆ ชมปะการังสุดใกล้ชิด เรียกว่าชีวิตที่นี้สนิทกับธรรมชาติสุดๆ พักผ่อนหย่อนใจจนไม่อยากกลับ มาดูว่าเกาะรงมีดีอย่างไร ทำไมใครๆ ต้องไปเที่ยวที่นั้น
เกาะรง เกาะธรรมดาแต่น่าตื่นตาตื่นใจ
เกาะรงเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับสองของประเทศกัมพูชา มีพื้นที่ทั้งหมด 78 ตารางกิโลเมตร มีชายหาดทรายขาวยาวรอบเกาะ 43 กิโลเมตร ระยะห่างจากเกาะรงไกลจากเมืองสีหนุประมาณ 25 กิโลเมตร การเดินทางต้องใช้เรือบริการรับส่ง แต่ที่สะดวกและนิยมมากที่สุดต้องจุดวงเวียนสิงโตคู่ ให้เลือกขึ้นได้ 2 แบบคือ แบบ Speed Ferry เดินทางเพียงแค่ 45 นาที และเรือแบบธรรมดาใช้เวลา 2 ชั่วโมง เกาะรงไม่ใช่เกาะท่องเที่ยวหรือเกาะสาธารณะเหมือนเกาะทั่วๆ ไป แต่เป็นเกาะที่มีประชากรบนเกาะอาศัยกันเป็นหมู่บ้าน ประกอบด้วย 4 หมู่บ้าน จึงเห็นวิถีชีวิตของชาวประมง นักจับปลา ขายปลา มีโฮมสเตย์แบบบ้านๆ มีบังกะโลให้อาศัยในราคาประหยัด
การท่องเที่ยวที่แรกต้องเริ่มที่ หาดเกาะโต๊ยซ์ (Koh Tuich Beach) หาดที่มีสีสันและชีวิตมากที่สุด มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง ทั้งที่พัก เกสเฮาสต์ ร้านค้า บาร์ จึงเห็นนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปและอเมริกาเยอะมาก ถัดไปต้องมาที่หาดสุขสันต์ หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่า Long Beach เป็นจุดแลนด์มาร์กของเกาะรงเพราะมีหาดทรายขาวยาวกว่า 6 กิโลเมตร มีน้ำทะเลสีเขียวสวยสะดุดตา หาดทรายขาวสะอาด เป็นแหล่งอาบแดด ชมปะการัง ชมปลาแหวกว่ายแบบใกล้ชิด เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุด แต่ไม่มีที่พักเพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นแนวป่าธรรมชาติ จะมีที่พักคือปลายหาดที่ต้องเดินกลับเอง อยากบอกว่าเขารักษาสิ่งแวดล้อมที่สุดดังนั้นจึงไม่มีรถ มีแต่เรือเท่านั้น
การเดินรอบเกาะรงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะกว่าจะเดินไปถึงจุดแลนด์มาร์กอย่าง Long Beach ต้องข้ามเขาและผจญภัยแบบ Adventure จึงถูกใจหลายคน ทั้งปีนเขา ไต่เชือก โหนต้นไม้ แต่ถ้าอยากไปทางลัดข้ามเขาก็มีบริการนั่งเรือไปยัง Long Beach ได้เลย
เกาะรงแม้จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 1,000 คนต่อวัน แต่ก็มีมาตรการดูแลเกาะอย่างเข้มงวด ห้ามทิ้งขยะไม่เป็นที่ หากพบเห็นจะต้องถูกปรับเป็นเงินตั้งแต่ 1 หมื่นถึง 1 แสนเรียล เพื่อรักษาความงามให้กับธรรมชาติไม่ทำลายทรัพยากร ทั้งนี้ยังมีเรื่องราวน่ารักๆ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะบนเกาะรงยังมีร้านให้เติมน้ำแบบรีฟิลฟรีไปเลย เพียงแค่พกขวดน้ำเปล่ามาแค่นั้นเอง ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายแต่เขายังคำนึงถึงการลดปริมาณขยะพลาสติกไม่ให้เกลื่อนกลาดบนเกาะ เป็นเรื่องราวที่ร่วมแรงร่วมใจทั้งคนอยู่ นักท่องเที่ยว แบบมีความสุขถาวรเลยละ