เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดเป็นหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงดังไประดับโลก เป็นหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการยอมรับว่าควรจะมาสักครั้งหนึ่งก่อนตาย เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ความตื่นเต้น ทั้งยังมีสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์และสวยงาม ทำให้ที่แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ
ฟูลมูนปาร์ตี้ในประเทศไทยจัดเป็นหนึ่งสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากทั่วโลก ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต้องการที่จะเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ในประเทศไทย
Full Moon Party จัดตั้งขึ้นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ เกาะพะงัน ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นเหมือนสวรรค์ของนักท่องโลกราตรีในภาคใต้ของประเทศ ทั้งยังเป็นจุดชมพระจันทร์เต็มดวงที่ชัดเจนและสวยงามที่สุดในโลกยามท้องฟ้ามืดมน นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาร่วมงานเฉลิมฉลอง Full Moon ทุกๆ เดือน โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 10,000 – 30,000 คน ซึ่งต้องแล้วแต่วันและเวลาของปฏิทินประจำปีที่ได้กำหนดงานเอาไว้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาร่วมงานปาร์ตี้นี้ มีจุดประสงค์ 2 อย่าง ได้แก่ โอกาสทางเพศและร่วมสนุกกับเสียงดนตรีการเฉลิมฉลองระหว่างหนุ่มสาวที่มาร่วมงาน มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักตลอดทั้งคืนและมีเสียงเพลงสุดมันส์ที่ดังสนั่นทั้งเกาะ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ที่มามักให้ความสนใจกับการเพ้นท์สีเรืองแสงลงที่หน้าและร่างกาย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาร่วมงาน Full Moon Party กิจกรรมภายในเกาะยังประกอบไปด้วย การแสดงควงไฟ , เต้น และเกมส์ที่หลากหลายที่เกิดขึ้นในหาด
การว่ายน้ำก็จัดเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมเช่นกัน แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบการว่ายน้ำต้องระมัดระวังอันตรายใต้ท้องทะเล เพราะพิษที่ร้ายแรงของแมงกะพรุนกล่องอาจทำให้ได้รับความบาดเจ็บได้ แต่จะมีเจ้าหน้าที่ประจำเกาะตามพื้นที่ต่างๆ คอยดูแลรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด ทั้งยังให้ความช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากนักท่องเที่ยวต้องการ นักท่องเที่ยวส่วนมากมักมีความสุขมากกับการเดินชายหาดในค่ำคืนที่สนุกสนาน กับงานปาร์ตี้สุดมันส์รอบด้าน
งานฟูลมูนปาร์ตี้จะเริ่มขึ้น เมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกดิน และจะสิ้นสุดงานเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นของวันรุ่งขึ้น ทั้งนี้ชายหาดยังมีบริการ Sleep Area สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนุกหนักจนไม่สามารถกลับห้องพักได้ ให้สามารถใช้บริการได้ตลอดทั้งคืน ซึ่งในอัตราของราคาเข้างานนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่นักท่องเที่ยวจะเสียเงินค่าเข้าเพียง 100 บาทเท่านั้น